สร้าง Portfolio Tracker ด้วยตัวเอง: วิธีจดพอร์ตหุ้น-กองทุนใน Google Sheets แบบละเอียด (พร้อม Template ฟรี!)

คุณเคยสงสัยไหมว่าพอร์ตการลงทุนที่กระจัดกระจายอยู่ในหลายๆ ที่ ทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ กองทุนรวม หรือแม้แต่คริปโตฯ ตอนนี้มีหน้าตาเป็นอย่างไร? เราลงทุนหนักไปในอุตสาหกรรมไหน หรือกระจุกตัวอยู่ในประเทศใดมากเกินไปหรือเปล่า?

บทความนี้จะสอนคุณแบบจับมือทำ ตั้งแต่การวางโครงสร้างไปจนถึงการวิเคราะห์ขั้นสูง พร้อมแจก Template ให้คุณนำไปใช้งานได้ทันที!

สร้าง Portfolio Tracker ด้วยตัวเอง: วิธีจดพอร์ตหุ้น-กองทุนใน Google Sheets แบบละเอียด (พร้อม Template ฟรี!)

คุณเคยสงสัยไหมว่าพอร์ตการลงทุนที่กระจัดกระจายอยู่ในหลายๆ ที่ ทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ กองทุนรวม หรือแม้แต่คริปโตฯ ตอนนี้มีหน้าตาเป็นอย่างไร? เราลงทุนหนักไปในอุตสาหกรรมไหน หรือกระจุกตัวอยู่ในประเทศใดมากเกินไปหรือเปล่า?

การมี Portfolio Tracker หรือระบบติดตามพอร์ตการลงทุนที่ดี คือหัวใจสำคัญที่จะช่วยตอบคำถามเหล่านี้ และเป็นอาวุธลับของนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จทุกคน วันนี้เราจะมาสร้างเครื่องมือนี้ด้วยสิ่งที่ทุกคนคุ้นเคยอย่าง Google Sheets ซึ่งไม่เพียงแต่ฟรีและใช้งานง่าย แต่ยังทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ

บทความนี้จะสอนคุณแบบจับมือทำ ตั้งแต่การวางโครงสร้างไปจนถึงการวิเคราะห์ขั้นสูง พร้อมแจก Template ให้คุณนำไปใช้งานได้ทันที!

หัวใจหลัก: แยก "ข้อมูลดิบ" ออกจาก "การวิเคราะห์"

ก่อนจะเริ่ม เราต้องเข้าใจแนวคิดที่สำคัญที่สุดก่อน นั่นคือการแยกชีตออกเป็น 2 ส่วนหลัก เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการและต่อยอดในอนาคต:

  1. Transaction Log (สมุดบันทึกธุรกรรม): เป็นชีตสำหรับบันทึก "ทุกการกระทำ" ที่เกิดขึ้นกับการลงทุนของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการ ซื้อ (Buy), ขาย (Sell), หรือ รับเงินปันผล (Dividend) ชีตนี้คือฐานข้อมูลล้ำค่าของเรา
  2. Dashboard (แดชบอร์ดสรุปภาพรวม): เป็นชีตที่ดึงข้อมูลจาก Transaction Log มาสรุปผลในรูปแบบของตารางและกราฟที่เข้าใจง่าย ทำให้เราเห็นภาพรวมของพอร์ตในพริบตา

ขั้นตอนที่ 1: สร้างชีต "Transaction Log" - หัวใจของข้อมูลทั้งหมด

ชีตนี้เปรียบเสมือนสมุดบัญชีที่เราจะลงข้อมูลทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหวในพอร์ต การออกแบบคอลัมน์ที่ดีคือจุดเริ่มต้นของทุกอย่าง

สร้างคอลัมน์ที่จำเป็นดังนี้:

คอลัมน์ คำอธิบาย ตัวอย่าง
Date วันที่ทำธุรกรรม 15/10/2023
Ticker ชื่อย่อสินทรัพย์ AOT, KFINFRA, AAPL
Asset Name ชื่อเต็มสินทรัพย์ (เพื่อความเข้าใจ) ท่าอากาศยานไทย, K-INFRA, Apple Inc.
Transaction ประเภทธุรกรรม (Buy, Sell, Dividend) Buy
Quantity จำนวนหน่วย/หุ้น 100
Price/Unit ราคาต่อหน่วย/หุ้น 68.50
Commission ค่าธรรมเนียมและภาษี 25.50
Total Value มูลค่ารวม (Quantity*Price)+Comm 6,875.50
Asset Class ประเภทสินทรัพย์ (หุ้น, กองทุนรวม) หุ้น
Country ประเทศที่ลงทุน (ไทย, สหรัฐฯ, Global) ไทย
Industry กลุ่มอุตสาหกรรม (เทคโนโลยี, การเงิน) ท่องเที่ยว

Pro-Tip: สำหรับคอลัมน์ที่เป็นหมวดหมู่ (Transaction, Asset Class, Country, Industry) ให้ใช้ฟีเจอร์ Data Validation (ไปที่เมนู Data > Data Validation) เพื่อสร้าง Dropdown List (รายการแบบเลื่อนลง) ซึ่งจะช่วยป้องกันการพิมพ์ผิดและทำให้ข้อมูลเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งหมด


ขั้นตอนที่ 2: สร้างชีต "Dashboard" ด้วย Pivot Table - พลิกข้อมูลให้เป็นภาพ

เมื่อเรามีข้อมูลดิบที่พร้อมแล้ว ก็ถึงเวลาของพระเอกอย่าง Pivot Table (ตารางไพวอท) เครื่องมือที่จะสรุปข้อมูลที่ซับซ้อนให้กลายเป็นตารางที่เข้าใจง่ายในไม่กี่คลิก

วิธีสร้าง Pivot Table:

  1. คลิกที่ตารางข้อมูลในชีต Transaction Log
  2. ไปที่เมนู Insert > Pivot table
  3. เลือกสร้างใน New sheet (ชีตใหม่)

จากนั้นใช้ Pivot table editor ที่ปรากฏขึ้นทางขวาเพื่อสร้างรายงานสรุปในมิติต่างๆ

1. วิเคราะห์สัดส่วนสินทรัพย์ (Asset Allocation)

เพื่อดูว่าเราลงทุนใน หุ้น, กองทุน, หรือสินทรัพย์อื่นๆ เป็นสัดส่วนเท่าไหร่

  • Rows (แถว): Asset Class
  • Values (ค่า): SUM of Total Value
  • Show as (แสดงเป็น): % of grand total

2. วิเคราะห์สัดส่วนตามประเทศ (Geographic Allocation)

เพื่อดูว่าพอร์ตของเรากระจุกตัวอยู่ในประเทศไหนเป็นพิเศษ

  • Rows (แถว): Country
  • Values (ค่า): SUM of Total Value
  • Show as (แสดงเป็น): % of grand total

3. วิเคราะห์สัดส่วนตามอุตสาหกรรม (Sector Allocation)

เพื่อดูว่าเราให้น้ำหนักกับอุตสาหกรรมใดมากที่สุด

  • Rows (แถว): Industry
  • Values (ค่า): SUM of Total Value
  • Show as (แสดงเป็น): % of grand total

Pro-Tip: เมื่อได้ตารางสรุปจาก Pivot Table แล้ว ให้คลิกที่ตารางนั้นแล้วไปที่เมนู Insert > Chart เพื่อสร้าง กราฟวงกลม (Pie Chart) หรือ กราฟแท่ง (Bar Chart) ซึ่งจะช่วยให้เห็นภาพการกระจายตัวของพอร์ตได้ชัดเจนยิ่งขึ้น


ขั้นตอนที่ 3 (สำหรับขั้นสูง): อัปเกรด Tracker ของคุณให้เป็นอัตโนมัติ

หากคุณต้องการความสะดวกสบายไปอีกขั้น Google Apps Script คือคำตอบ!

  • สร้างเมนู Import ข้อมูล: คุณสามารถเขียนสคริปต์เพื่อสร้างเมนูสำหรับนำเข้าไฟล์ CSV ที่ดาวน์โหลดจากโบรกเกอร์ได้โดยตรง ข้อมูลธุรกรรมใหม่ๆ จะถูกเพิ่มเข้าไปในชีต Transaction Log โดยอัตโนมัติ
  • ดึงราคา Real-time: ใช้ฟังก์ชัน =GOOGLEFINANCE() เพื่อดึงราคาล่าสุดของหุ้นมาแสดงในชีต ทำให้คุณเห็นมูลค่าพอร์ตปัจจุบัน (Market Value) ได้ตลอดเวลา

แจกฟรี! Template Portfolio Tracker

เพื่อช่วยให้คุณเริ่มต้นได้ง่ายขึ้น ผมได้สร้าง Template Google Sheets ที่มีโครงสร้างชีต, Dropdown List, และ Dashboard ที่ตั้งค่า Pivot Table ไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

(คำแนะนำ: เมื่อเปิดลิงก์แล้ว ให้ไปที่เมนู File > Make a copy เพื่อคัดลอกไฟล์ไปเป็นของคุณ)

บทสรุป

การสละเวลาเพื่อสร้างและบันทึกข้อมูลใน Portfolio Tracker อาจดูเหมือนเป็นงานที่น่าเบื่อในช่วงแรก แต่ผลตอบแทนที่ได้กลับมานั้นมหาศาล มันไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณเข้าใจภาพรวมการลงทุนของตัวเองได้อย่างลึกซึ้ง แต่ยังเป็นรากฐานสำคัญในการตัดสินใจปรับพอร์ตในอนาคตได้อย่างมีหลักการและแม่นยำ

เริ่มต้นลงมือทำตั้งแต่วันนี้ แล้วคุณจะพบว่าการมีข้อมูลอยู่ในมือ คือแต้มต่อที่สำคัญที่สุดในโลกของการลงทุนครับ

Previous Post Next Post